กาแฟพิคโคโล่ร้อน หลายหลายคนคงจะเคยเห็นภาพของกาแฟนมแก้วเล็กๆโดดเด่น อยู่ใน Instagram หรือโซเชียลมีเดียอื่นๆ กาแฟแก้วนี้มีชื่อว่ากาแฟพิคโคโล่ร้อน เป็นกาแฟที่มีชื่อเสียงของประเทศออสเตรเลีย ซึ่งไม่เพียงแต่จะมีรูปลักษณ์ที่น่าสนใจแต่ก็ยังมีรสชาติที่อร่อยและเป็นเอกลักษณ์อีกด้วย
กาแฟพิคโคโล่ร้อนคืออะไร
กาแฟพิคโคโล่ร้อน ถือกำเนิดที่ประเทศออสเตรเลีย ด้วยความต้องการของบาริสต้าที่จะสร้างสรรค์เมนูกาแฟนมแบบใหม่ที่มีรูปลักษณ์เฉพาะตัว และสามารถดื่มได้โดยไม่รู้สึกอิ่มจากนมมากเกินไป จึงทำให้เกิดกาแฟแก้วเล็กๆแต่รสโต อย่างกาแฟพิโคโล่ร้อนขึ้นมา ด้วยความที่กาแฟแก้วนี้ถูกเสริฟ์ในแก้วเล็ก ๆ ที่น่ารัก หลายคนจึงมักจะถ่ายรูปลงในโซเชียลเมียเดีย จนทำให้กาแฟแก้วนี้มีชื่อเสียงมากยิ่งขึ้นในปัจจุบัน
คำว่าพิโคโล่(Piccolo) ในภาษาอิตาเลียนหมายถึงสิ่งเล็กๆ กาแฟพิคโคโล่จึงเสริฟ์ในแก้วเล็ก ๆ ตามชื่อ หากดูกันที่ส่วนผสมจะพบว่ากาแฟชนิดนี้ถูกผสมขึ้นมาจากกาแฟเอสเปรสโซ่และนม เช่นเดียวกับกาแฟลาเต้ แต่การที่กาแฟพิคโคโล่ร้อนเสิร์ฟในแก้วเล็ก ๆ ทำให้กาแฟพิคโคโล่ร้อนมีปริมาณนมในส่วนผสมน้อยกว่าในกาแฟลาเต้ ในขณะที่มีปริมาณกาแฟเอสเปรสโซ่ของกาแฟทั้งสองชนิดยังคงมีเท่ากัน ดังนั้นกาแฟพิคโคโล่ร้อนจึงมีรสชาตของกาแฟทึ่เข้มข้นกว่ากาแฟลาเต้นั่นเอง คนที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟพิคโคโล่ร้อน จึงเป็นคนที่ต้องการกาแฟนมที่มีรสชาติเข้มข้น ดื่มง่าย และใช้เวลารวดเร็วในการชงและดื่ม
รสชาติของกาแฟพิคโคโล่ร้อน
รสชาติของกาแฟพิคโคโล่ร้อนนั้นไม่แตกต่างจากกาแฟลาเต้ร้อน เพียงแต่จะมีความเข้มข้นของกาแฟที่มากกว่า เนื่องจากกาแฟพิคโคโล่ร้อนมีส่วนผสมของนมที่น้อยกว่ากาแฟลาเต้ร้อนนั่นเอง เมื่อคุณดื่มกาแฟพิคโคโล่ร้อน คุณจะได้รับรสชาติที่เข้มข้นและหอมกาแฟเอสเปรสโซ่ชั้นดี ในขณะเดียวกันก็จะได้รับรสชาติจากนมที่เติมเข้ามาพอให้เกิดความนุ่มนวลดื่มง่ายกว่ากาแฟเอสเปรสโซ่ร้อน ความนุ่มนวลจากนมและการเสิร์ฟแบบแก้วเล็กๆ ทำให้คอกาแฟสามารถดื่มกาแฟพิคโคโล่ร้อนได้อย่างรวดเร็วและหลายแก้วต่อหนึ่งวัน
ความแตกต่างระหว่างกาแฟพิคโคโล่ร้อนและกาแฟมัคคิอาโต้ร้อน
นอกจากกาแฟพิคโคโล่ร้อนแล้ว ยังมีกาแฟอีกชนิดที่มีรูปร่างหน้าตาคล้าย ๆ กั นั่นคือกาแฟมัคคิอาโต้ร้อน ที่มักจะเสิร์ฟในแก้วขนาดเล็กเช่นเดียวกัน วิธีการแยกความแตกต่างระหว่างกาแฟพิคโคโล่ร้อน และกาแฟมัคคิอาโต้ร้อนนั้น ให้ดูที่ปริมาณนมในส่วนผสมของกาแฟ กาแฟพิคโคโล่ร้อนนั้น จะใช้นมมาผสมในปริมาณที่มากกว่ากาแฟมัคคิอาโต้ ซึ่งใช้เพียงแค่โฟมนม ทำให้กาแฟพิคโคโล่ร้อนสามารถดื่มได้ง่ายกว่าเพราะมีรสชาติที่สมดุลกันระหว่างกาแฟเอสเปรสโซ่และนม ส่วนกาแฟมัคคิอาโต้นั้นใช้เพียงแค่กาแฟเอสเปรสโซ่และฟองนมจึงทำให้มีรสชาติที่เข้มข้นมากกาแฟพิคโคโล่ร้อน
ส่วนผสมของกาแฟพิคโคโล่ร้อน
การเลือกใช้กาแฟเอสเปรสโซ่ที่ดี เป็นหัวใจสำคัญของกาแฟพิคโคโล่ร้อน เนื่องจากกาแฟชนิดนี้มีส่วนผสมเพียงไม่กี่อย่าง ผู้ดื่มจึงสมมารถรับรู้ได้ถึงคุณภาพของวัตถุดิบที่นำมาใช้ เพื่อให้กาแฟพิคโคโล่ร้อนมีรสชาติที่สมบูรณ์แบบ คุณสามารถเลือกใช้กาแฟคั่วเข้มหรือคั่วกลางในการนำมาชงกาแฟแก้วนี้ก็ได้ แต่ควรใช้เมล็ดกาแฟชั้นดีที่ผ่านการคั่วอย่างพิถีพิถัน โดยโรงคั่วกาแฟที่มีมาตรฐาน เพื่อให้คุณสามารถดื่มด่ำกับกาแฟที่คุณต้องการ
สำหรับนมนั้น คุณสามารถใช้นมอะไรก็ได้ที่คุณมีในตู้เย็นเพื่อชงกาแฟพิคโคโล่ร้อน การใช้นมสดเต็มมันเนยจะทำให้กาแฟแก้วนี้มีความเข้มข้น และมีรสชาติที่หอมมัน แต่คุณก็สามารถเลือกใช้นมไขมันต่ำ หากต้องการโฟมนมที่หนานุ่มกว่า อย่ากลัวว่าหากเลือกใช้นมไขมันต่ำแล้วกาแฟจะไม่มีรสชาติที่เข้มข้น เนื่องจากเราไม่ได้ช้ส่วนผสมของนมที่มากนักในเมนูนี้ ดังนั้นไม่ว่าคุณจะใช้นมชนิดไหนก็ยังให้รสชาติที่ใกล้เคียงกัน
วิธีการผสมกาแฟที่ผสมกาแฟพิโคโร่ร้อน
ก่อนที่จะผสมกาแฟพิคโคล่ร้อน คุณจะต้องเตรียมวัตถุดิบดังนี้
- กาแฟเอสเปรสโซ่ 1 ช็อต หรือ 30 มิลลิลิตร
- นมสด 60 มิลลิลิตร
เมื่อเตรียมส่วนผสมเรียบร้อยแล้ว คุณสามารถผสมกาแฟพิคโคโล่ร้อนได้ตามวิธีการดังต่อไปนี้
- ชงกาแฟเอสเปรสโซ่ของคุณ ด้วยเครื่องชงที่คุณชื่นชอบ
- สตรีมนมให้ขึ้นฟองฟูด้วยเครื่องชงกาแฟเอสเปรสโซ่ หรือจะใช้เครื่องตีฟองนมขนาดเล็กก็ได้
- เทกาแฟเอสเปรสโซ่ลงในแก้วขนาดเล็ก
- ค่อย ๆ เทนมที่สตรีมแล้วลงในแก้ว ให้เป็นชั้นเหนือกาแฟเอสเปรสโซ่และวางโฟมนมลงไป
- จัดเสิร์ฟ
เคล็ดลับในการดื่มกาแฟพิคโคโล่ร้อนให้อร่อย คือคุณสามารถที่จะเติมน้ำตาลเล็กน้อย เพื่อให้กาแฟมีรสหวานและดื่มง่ายยิ่งขึ้น แต่ถ้าคุณชื่นชอบกาแฟที่มีรสชาติคลาสสิคดั้งเดิมเราขอแนะนำให้คุณดื่มกาแฟแก้วนี้แบบไม่ผสมน้ำตาลเพื่อที่จะได้รสชาติความหวานธรรมชาติของกาแฟและนมแบบเต็มเต็ม
กาแฟพิคโคโลร้อน ที่เป็นกาแฟที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น น่าสนใจ และมีรสชาติที่อร่อย กาแฟชนิดนี้จึงเป็นที่โด่งดังในต่างประเทศ จนเข้ามาในประเทศไทย ดังนั้นอย่าพลาดที่จะดื่มกาแฟพิคโคโล่ร้อน เพื่อที่จะได้บอกใคร ๆ ได้ว่าเราไม่ตกเทรนด์กาแฟโลกแล้ว
